ละครหลวงวิจิตรวาทการ
ละครหลวงวิจิตรวาทการ
หลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองใน พ.ศ ๒๔๗๕ กรมศิลปากรได้รวบรวมศิลปิน โขน ละคร และนักดนตรี ขึ้นมารวมกันใหม่อีกครั้งหนึ่งตั้งเป็นกองขึ้นในกรมศิลปากร ทั้งได้ตั้งโรงเรียนนาฏดุริยางคศาสตร์ ขึ้นฝึกฝนนักเรียนด้วยเพื่อรักษาศิลปะของชาติไว้มิให้เสื่อมสูญ ในระยะนี้หลวงวิจิตรวาทการ (กิมเหลียง วัฒนปฤดา) ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมศิลปากร เป็นทั้งนักการทูตและนักประวัติศาสตร์ ท่านจึงมองเห็นคุณค่าทางการละครที่จะใช้เป็นสื่อปลุกใจ ให้ประชานเกิดความรักชาติ เนื้อหาจะนำมาจากประวัติศาสตร์ตอนใดตอนหนึ่ง บทละครจะมีทั้งรัก รบ อารมณ์สะเทือนใจ ความรักที่มีต่อคู่รัก ถึงแม้จะมากมายเพียงไร ก็ไม่เท่ากับความรักชาติ ตัวเอกของเรื่องเสียสละชีวิต พลีชีพเพื่อชาติ ด้วยเหตุที่ละครของท่านไม่เหมือนการแสดงละครที่มีอยู่ก่อน คนทั้งหลายจึงเรียกละครของท่านว่า "ละครหลวงวิจิตรวาทการ"
ผู้แสดง จะใช้ผู้แสดงที่เป็นทั้งผู้ชายและผู้หญิง แสดงจริงตามบทบาทในเรื่อง
การแต่งกาย แต่งกายตามเนื้อเรื่องและให้ถูกต้องตามประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนั้นๆ
เรื่องที่แสดง ได้แก่ ราชมนู พระเจ้ากรุงธน ศึกถลาง เจ้าหญิงแสนหวี พระมหาเทวี เบญจเพส น่านเจ้า
อนุสาวรีย์ไทย พ่อขุนผาเมือง ดาบแสนเมือง ชนะมาร เจ้าหญิงกรรณิการ์ สีหราชเดโช ตายดาบหน้า ลานเลือดลานรัก เพชรรัตน์-พัชรา ลูกพระคเณศ ครุฑดำ โชคชีวิต อานุภาพ พ่อขุนรามคำแหง อานุภาพแห่งความเสียสละ
อานุภาพแห่งความรัก อานุภาพแห่งศีลสัตย์ และเลือดสุพรรณ
ดนตรี บรรเลงด้วยวงดนตรีไทยและวงดนตรีสากลประกอบกัน
เพลงร้อง มีทั้งเพลงไทยเดิมและเพลงไทยสากล ซึ่งการใช้เพลงไทยสากลจะมี ๓ ลักษณะ คือ
๑. เพลงไทยสากลที่ให้ตัวละครร้องโต้ตอบกัน มักเป็นเพลงรัก เช่น เพลงดวงจันทร์ ในบทละครเรื่องเลือดสุพรรณ
๒. เพลงไทยสากลที่ให้ตัวละครร้องประกอบการแสดง เนื้อร้องและท่วงทำนองมักสอดคล้องกับบรรยากาศในท้องเรื่อง เช่น เพลงยากเย็น ในบทละครเรื่องเลือดสุพรรณ
๓. เพลงไทยสากลอีกประเภท คือ เพลงปลุกใจ ซึ่งมักแทรกอยู่ในบทละครประวัติศาสตร์ของท่านแทบทุกเรื่อง เช่น เพลงเลือดสุพรรณ ในบทละครเรื่องเลือดสุพรรณ
สถานที่แสดง แสดงได้ทุกสถานที่ และจะมีการจัดฉากที่วิจิตรบรรจงประกอบการแสดง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น